


Mulberry หรือ หม่อน มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน มีอายุนานได้มากกว่า 100 ปี หากไม่มีปัจจัยด้านโรคมารบกวน ในเมืองไทยปลุกมากในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อการผลิตเส้นใยไหม และผ้าไหม ลักษณะเด่นของหม่อนเป็นไม้ทรงพุ่ม สูงประมาณ 2-5 ม. ใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่กว้าง 8-15 ซม. ยาว 10-15 ซม. ด้านขอบใบมีรอยหยัก ใบมีลักษณะสาก ส่วนดอกมีสีขาวหม่นหรือแกมเขียว ออกเป็นช่อ ผลมีลักษณะเป็นผลรวม เมื่อสุกจะมีแดง สีม่วงแดง สุกมากจะมีสีดำ ตามลำดับ มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว
วิธีการปลูกก็ไม่ยุ่งยาก ขยายพันธุ์ใช้วิธีการปักชำกิ่ง กิ่งพันธุ์ที่ใช้ควรเป็นกิ่งแก่ที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นไป จนถึง 2 ปี ไม่ควรใช้กิ่งที่มีอายุมากเกินกว่า 2 ปี ตัดกิ่งความยาวประมาณ 15-20 ซม. โดยให้มีตายอดหรือตาใบติดประมาณ 2-3 ตา แล้วเสียบกิ่งลงดินลึกประมาณ 7-10 ซม. โดยให้ตายอดตั้งขึ้น ในแนวเอียงประมาณ 40-50 องศา เคล็ดลับคือการหมั่นริดใบ โน้มกิ่ง เพื่อให้ออกลูกมากและเก็บง่าย รดน้ำส้มควันไม้เดือนละหนึ่งครั้งกันเพลี้ยและแมลงรบกวน
ในลูกหม่อน นอกจากมีรสอร่อยแล้วยังพบสารในกลุ่ม anthocyanin ที่มีฤทธิ์ต่อต้านอาการขาดเลือดในสมอง ต่อต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังพบวิตามิน C ในปริมาณสูง ช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟันอีกด้วย ในรากและใบก็ล้วนแล้วแต่มีสรรพคุณทางยา
ที่ไร่ของเรามีปลูกอยู่หนึ่งแปลงตามแนวทาง ไร่นาสวนผสม แต่พอเวลามีลูกออกมาก็เยอะมากจนทานไม่หมดก็ทำแยมกัน โดยสูตรไม่ใช้เพคตินและไม่หวานมากก็คือ
- หม่อน 2 ส่วน ต่อ น้ำตาลทราล 1 ส่วน
- พอเคี่ยวจนเหนียวดีก่อนยกลงให้เติมน้ำมะนาวเล็กน้อยตัดรส
- เก็บใส่ขวดแก้วต้มฆ่าเชืัอปิดฝาให้แน่นได้นาน หรือถ้าเปิดรับประทานแล้วก็ควรทานให้หมดใน 2-3 อาทิตย์โดยเก็บในตู้เย็น
อ้างอิง
http://puechkaset.com/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99/